ดาวและความสะดวกสบาย

มิชลิน ไกด์จะมีรีวิวสั้น ๆ ของแต่ละร้าน พร้อมระบุสัญลักษณ์ของรางวัลต่าง ๆ ที่เรามอบให้ แน่นอนว่า รางวัลที่ทุกคนรู้จักและเหล่าเชฟใฝ่ฝันคือรางวัลดาวมิชลิน ซึ่งมีตั้งแต่ 1-3 ดาว แต่เราก็ยังมีรางวัลที่ไม่มีดาวอีกต่างหาก หลักเกณฑ์ที่ใช้ประเมินแต่ละร้านมี 5 อย่าง ประกอบด้วยคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ความโดดเด่นของรสชาติและเทคนิคการรังสรรค์อาหาร เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่นำเสนอผ่านมื้ออาหาร ความคุ้มค่าสมราคา และความคงที่ของประสบการณ์ในการทานต่างวาระ

รางวัลมิชลินจะไม่ได้พิจารณาถึงการตกแต่งร้าน การจัดโต๊ะ หรือการบริการ ทั้ง 3 หัวข้อนี้จะเรียกรวมเป็น “ระดับความความสะดวกสบาย” แทน โดยใช้สัญลักษณ์ช้อนส้อมไขว้กัน

bd01026a1778478cba866b2035e8baed_1-MICHELIN+STAR.png696ef32eaa7d4941b39d0f0e8dd38333_3-RESTAU_COMFORT+AND+QUALITY.png3638aa2712b141bfa2b2719b22874c6f_Hotels_BKK.png

เครดิตรูปภาพจาก https://guide.michelin.com/th/th/to-the-stars-and-beyond-th

Michelin Star ถือเป็นตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงคุณภาพและรสชาติความอร่อย ทำให้ร้านอาหารที่ได้มิชลินสตาร์ มักจะได้รับความสนใจจากผู้คนมากเป็นพิเศษ จนกลายมาเป็นร้านที่มีชื่อเสียงไปโดยปริยาย เพราะมิชลินสตาร์เป็นสัญลักษณ์อันทรงเกียรติและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยร้านอาหารที่ได้ Michelin Star จะมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

Michelin Star 1 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่คัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ปรุงรสชาติออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งถือเป็นร้านอาหารที่ควรค่าต่อการหยุดแวะชิม

Michelin Star 2 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เชฟประจำร้านมีความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์เมนูอาหาร ซึ่งถือเป็นร้านอาหารที่ควรค่าต่อการออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม

Michelin Star 3 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่มีเชฟที่ชำนาญ เชี่ยวชาญ และอยู่ในจุดจุดสูงสุดของอาชีพการทำอาหาร เป็นร้านที่สามารถยกระดับศิลปะการทำอาหารขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งถือเป็นร้านอาหารที่ควรค่าต่อการเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้งในชีวิต

รางวัลบิบ กูร์มองด์และมิชลิน เพลท

แม้จะไม่ใช่ติดดาว แต่ก็ไม่ใช่รางวัลปลอบใจ ชื่อรางวัลบิบ กูร์มองด์มาจากมาสคอตของมิชลินกรุ๊ปอย่างเจ้าบีเบนดั้ม (Bibendum) หรือที่หลายคนรู้จักในนามมิชลิน แมน รางวัลนี้จะมอบให้ร้านที่นำเสนออาหารรสชาติดีในราคาไม่แพง น่าลองไม่แพ้ร้านติดดาว

ระหว่างที่ผู้ตรวจสอบมิชลินออกเสาะหาและตรวจสอบร้านอาหารทั่วโลก พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญแค่กับร้านหรู แต่ยังมองหาร้านที่นำเสนออาหารคุณภาพดีในราคามิตรภาพ เมื่อรายชื่อร้านเหล่านี้เพิ่มขึ้น รางวัลบิบ กูร์มองด์จึงถือกำเนิด

3ac651d21fe94a62a8f20b1553861209_2-BIB+GOURMAND.png

เครดิตรูปภาพจาก https://guide.michelin.com/th/th/to-the-stars-and-beyond-th

ในช่วงแรก มิชลิน ไกด์จะใช้อักษร R สีแดงเพื่อบ่งบอกถึง “ร้านอาหารอร่อยในราคาย่อมเยา” ถ้าสั่งอาหารครบทุกคอร์ส ตั้งแต่ของทานเล่น จากหลัก และของหวานแล้ว ราคารวมจะใกล้เคียงกับร้านระดับเดียวกัน (ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 36 Euro ในยุโรป 40 US Dollar ในอเมริกา 30 Hong Kong Dollar ในฮ่องกง หรือ 5,000 Yen ในญี่ปุ่น)

ในพ.ศ.2540 มิชลิน ไกด์เปิดตัวสัญลักษณ์ร้านรางวัลบิบ กูร์มองด์เป็นครั้งแรก เป็นรูปมิชลิน แมนเลียริมฝีปาก ตั้งแต่นั้นมา นักชิมที่มองหาความคุ้มค่าต่างหลงรักตุ๊กตาตัวนี้

นอกจากนี้ ผู้ตรวจสอบมิชลินยังพบว่า รางวัลบิบ กูร์มองด์ช่วยผลักดันให้เจ้าของร้านอาหารต่าง ๆ หันมาใส่ใจนำเสนอรสชาติท้องถิ่นผ่านอาหารคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ ภายใต้บรรยากาศเป็นกันเอง